Skip to content
Log in Sign Up
BIC DARKBIC
  • หน้าหลัก
  • หลักสูตรพัฒนาธุรกิจ
    • Advanced Franchise Program
    • Retail Management Program
    • Professional Business Design Program
    • Franchise Business Development Program
    • Growth Strategies Program
    • Restaurant Management Program
    • Store Management &Operation Training
    • Professional Field Visit
    • Franchise Cloning Business
  • In-house Training
  • บทความและข่าวสาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
0

Currently Empty: ฿0.00

Continue shopping

BIC DARKBIC
  • หน้าหลัก
  • หลักสูตรพัฒนาธุรกิจ
    • Advanced Franchise Program
    • Retail Management Program
    • Professional Business Design Program
    • Franchise Business Development Program
    • Growth Strategies Program
    • Restaurant Management Program
    • Store Management &Operation Training
    • Professional Field Visit
    • Franchise Cloning Business
  • In-house Training
  • บทความและข่าวสาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา

Nose Tea : จากร้านชาเล็กๆ สู่ธุรกิจร้อยล้านในเวลาเพียง 3 ปี

Home » บทความและข่าวสาร » Nose Tea : จากร้านชาเล็กๆ สู่ธุรกิจร้อยล้านในเวลาเพียง 3 ปี
Business

Nose Tea : จากร้านชาเล็กๆ สู่ธุรกิจร้อยล้านในเวลาเพียง 3 ปี

  • 23/09/2025
  • Com 0

ข้อมูลสําคัญเกี่ยวกับ Nose Tea

  • ปี 2566 เติบโตจากปีก่อนกว่า2,000% และในปี 2567 ปิดยอดรายได้สูงถึง297 ล้านบาท bangkokbiznewsFacebook
  • ปัจจุบันมีสาขาประมาณ15 แห่งและตั้งเป้าเปิดครบ 19 สาขา ภายในปีหนึ่ง พร้อมมีเป้าหมายในการเตรียมเข้าสู่
    ตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2570 bangkokbiznewsFacebook
  • โดดเด่นในแง่ของการสร้างแบรนด์ที่แตกต่าง ผ่านสื่อโซเชียล เช่น TikTok ที่ทําให้เกิด Viral กระตุ้นยอดขายอย่างรวดเร็ว
    bangkokbiznewskrungsri.com

ไม่มีข้อมูลเรื่อง M&A หรือ Deal

• จากการค้นข้อมูล ไม่พบหลักฐานว่า Nose Tea มีการเข้าร่วมในข้อตกลงซื้อขายหุ้น หรือมีข่าวว่ามีผู้ลงทุนภายนอกเข้า
ถือหุ้นบางส่วน
• ที่มีการรายงานคือเป้าหมายการIPO ในอนาคต (Enter Stock Market) ไม่ใช่การขายกิจการในตอนน

อัตรากําไรของ Nose Tea (ปี 2567)

• รายได้ (Revenue) : 297–298 ล้านบาท
• กําไรสุทธิ (Net Profit) : 30 ล้านบาท

คํานวณอัตรากําไรสุทธิ (Net Profit Margin) ได้ว่า : หรือเทียบในรูปทศนิยมประมาณ10%
อัตรา ~10% ถือว่าสงกว่ามาตรฐานของธุรกิจร้านเครื่องดื่มทั่วไป ซึ่งมักมีอัตรากําไรสุทธิตั้งแต่ 5–8% ขึ้นอยู่กับต้นทุน

วัตถุดิบและค่าแรง
• ประสิทธิภาพธุรกิจ : อัตรากําไรสุทธิที่ 10% บ่งบอกว่า Nose Tea จัดการต้นทุนได้ค่อนข้างดี — ทั้งต้นทุนวัตถุดิบระบบการผลิต การจัดการร้าน และการตลาดที่สร้างการรับรู้โดยไม่ต้องใช้โฆษณาหนักมาก
• ศักยภาพในการเติบโต : หากรักษากําไรดีต่อเนื่อง ขยายสาขา หรือพัฒนาโมเดลแฟรนไชส์ อัตรานี้จะทําให้ธุรกิจมีจุดยืนที่มั่นคง เมื่อต้องแสดงตัวเลขต่อ นักลงทุน หรือพิจารณา IPO
• พลังของแบรนด์ : ความนิยมที่สูง ดึงลูกค้าเข้าร้านจํานวนมาก แม้ราคาต่อแก้วอาจสูงกว่าคู่แข่ง แต่ลูกค้ายังยอมจ่ายเพราะแบรนด์มีเอกลักษณ์และคุณภาพถูกใจ

โครงสร้างผู้ถือหุ้นและผู้ร่วมลงทุน

บริษัท โนส ที (ประเทศไทย) จํากัด (“Nose Tea”) ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2565 โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งหลัก 2 คนคือ คุณธนกฤต ศรีพฤกษมาศ และ คุณกชณิชา ฐิติชนาโชติ ซึ่งทั้งสองเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทในปัจจุบัน โดยยังไม่มีผู้ถือหุ้นภายนอกรายใหญ่หรือนักลงทุนร่วม (co-investor) จากภายนอกเข้ามาถือหุ้นอย่างมีนัยสําคัญในช่วงที่ผ่านมา (การถือหุ้นส่วนใหญ่ยังคงอยู่กับผู้ก่อตั้งเอง)
ทั้งนี้ บริษัทมีทุนจดทะเบียนล่าสุดประมาณ 11,333,300 บาท ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มทุนจดทะเบียนในช่วงการเติบโต (ทุนจดทะเบียนดังกล่าวคิดเป็นจํานวนหุ้นสามัญรวม 11.33 ล้านหุ้น หากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท)

การระดมทุนและแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์

Nose Tea เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยอาศัยเงินทุนจากผู้ก่อตั้งและกระแสเงินสดจากการดําเนินงานเป็นหลัก ในช่วงก่อตั้งและขยายธุรกิจระยะแรก ยังไม่มีการระดมทุนจาก Venture Capital (VC) หรือ Angel Investor อย่างเป็นทางการ ดังนั้นการลงทุน เพื่อขยายสาขาและดําเนินกิจการจึงมาจากเงินลงทุนของผู้ก่อตั้งเองและกําไรที่สร้างได้จากธุรกิจเป็นหลัก ปัจจุบันบริษัทมี แผนระดมทุนระยะยาวผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายในปี 2570 ตามเป้าหมายที่ผู้ก่อตั้งวางไว้ตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัท โดยขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมและตรวจสอบรายการต่าง ๆ ตามเกณฑ์ของสํานักงาน ก.ล.ต. แล้ว การเข้าตลาดหลักทรัพย์จะช่วยให้ Nose Tea สามารถระดมทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอนาคต

นักลงทุนภายนอกและข้อตกลงการลงทุน

ณ ปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏข้อมูลการทําข้อตกลงลงทุนกับนักลงทุนภายนอก เช่น บริษัทร่วมลงทุน (VC) หรือนักลงทุนบุคคล (Angel Investor) สําหรับบริษัท Nose Tea ข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านสื่อระบุว่าการเติบโตของบริษัทเกิดจากการดําเนินงานที่มีกําไรและการบริหารเงินทุนของผู้ก่อตั้งเองมากกว่าได้รับเงินทุนจากภายนอก กล่าวคือ ไม่มีรายงานการเพิ่มทุนโดยมีผู้ถือหุ้นใหม่จากภายนอกเข้ามา ในช่วงตั้งแต่ก่อตั้งถึงปัจจุบัน ดังนั้น ลักษณะการลงทุนของนักลงทุนภายนอก (ถ้ามี) จึงยังไม่เกิดขึ้นจริงในกรณีของ Nose Tea ณ ตอนนี้
อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทวางแผนจะ IPO ภายในปี 2570 บ่งชี้ว่าบริษัทอาจเปิดรับนักลงทุนสาธารณะในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นจากที่เคยเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งเป็นหลัก ไปสู่การมีผู้ถือหุ้นรายย่อยและนักลงทุนสถาบันมากขึ้นหลังการเข้าตลาดหลักทรัพย์

การขยายสาขาและกลยุทธ์แฟรนไชส์

กลยุทธ์การขยายสาขา ของ Nose Tea เป็นการเติบโตด้วยการลงทุนเอง เปิดสาขาบริหารโดยบริษัทเองทั้งหมด โดยไม่มีการขายแฟรนไชส์ ให้กับนักลงทุนอิสระในช่วงที่ผ่านมา สาเหตุที่ไม่เน้นระบบแฟรนไชส์ส่วนหนึ่งมาจากแนวทางของผู้ก่อตั้งที่ต้องการควบคุมคุณภาพสินค้าและประสบการณ์ของลูกค้าอย่างทั่วถึงทุกสาขา การไม่ขายแฟรนไชส์ทําให้บริษัทต้องใช้เงิน
ลงทุนเองในการขยายสาขาแต่ละแห่ง แต่ก็ช่วยรักษามาตรฐานของสินค้าและบริการได้ตามที่ผู้ก่อตั้งตั้งใจ

ตั้งแต่เปิดร้านครั้งแรกเมื่อปลายปี 2565 (สาขาทาวน์อินทาวน์) บริษัทได้ขยายสาขาอย่างรวดเร็วไปยังทําเลสําคัญต่าง ๆ โดย ปี 2566 บริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 15 แห่ง และมีแผนจะเปิดเพิ่มให้ครบ 19 สาขาภายในสิ้นปี 2567 นอกจากการขยาย
ในกรุงเทพฯ แล้ว ในปี 2567 Nose Tea ยังเริ่มขยายสาขาไปยังต่างจังหวัด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคอื่น
ๆ ของประเทศอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น มีการเปิดสาขาที่จังหวัดระยองและพัทยา เป็นต้น (ตามที่มีรายงานข่าวผ่านโซเชียลมีเดียของบริษัท) จากการรายงานล่าสุด ณ ปี 2568 Nose Tea มีจํานวนสาขารวมกว่า 20 สาขา และยังคงเดินหน้าแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การเลือกทําเลสาขาใหม่ให้ความสําคัญกับพื้นที่ที่มีทราฟฟิ กสูง เช่น ในศูนย์การค้าชั้นนํา และย่านที่กลุ่มเป้าหมายหนาแน่น เพื่อให้การลงทุนเปิดร้านแต่ละแห่งคุ้มค่าและสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย

สําหรับ กลยุทธ์แฟรนไชส์ แม้ว่า Nose Tea ยังไม่ได้เปิดขายแฟรนไชส์ในช่วงที่ผ่านมา แต่บริษัทก็ได้รับความสนใจจาก นักลงทุนและผู้สนใจธุรกิจจํานวนมากที่สอบถามถึงโอกาสการซื้อแฟรนไชส์ อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อตั้งยืนยันที่จะ เติบโตแบบ Organic (ขยายเอง) ไปก่อนในระยะนี้ โดยมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งของระบบหลังบ้านและแบรนด์ให้พร้อมเสียก่อน ทั้งนี้ใน ระยะยาว เมื่อบริษัทเติบโตจนถึงจุดหนึ่งหรือหลังการ IPO บริษัทอาจพิจารณากลยุทธ์การขยายรูปแบบอื่น ๆ (เช่น การให้ สิทธิแฟรนไชส์หรือการร่วมทุนกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์) เพื่อรองรับการขยายตัวไปต่างประเทศตามที่มีเป้าหมายไว้ แต่ปัจจุบัน ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้

ผลประกอบการและการเติบโตของกิจการ

Nose Tea ถือเป็นกรณีศึกษาของธุรกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดดภายในเวลาอันสั้น โดยมียอดขายและผลกําไรเพิ่มขึ้น
หลายเท่าตัวทุกปีตั้งแต่เริ่มดําเนินธุรกิจ ดังนี้ :

ปี 2565 (ปี แรกของการดําเนินงาน)

บริษัทเปิดร้านเพียง 1 สาขา (ทดลองตลาดที่ออฟฟิ ศก่อนย้ายมาเปิดสาขาแรกที่สยามเซ็นเตอร์) และทํารายได้ประมาณ 2.2 ล้านบาท ในปีนั้น แต่ยังมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิราว 2.4 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นธุรกิจที่มีการลงทุนตั้งต้นสูงและยอดขายยังน้อย (อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อตั้งมองว่าเป็นการลงทุนเพื่อเรียนรู้และวางระบบ ทําให้ธุรกิจพร้อมสําหรับการเติบโตในปีถัดไป)

ปี 2566 : ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังจากกระแส “ชาชีส” ของ Nose Tea

กลายเป็นไวรัลใน TikTok จนมีลูกค้าต่อคิว
แน่นร้าน ส่งผลให้รายได้ปี 2566 เพิ่มขึ้นกว่า 2,000% จากปีก่อน โดยทํารายได้ประมาณ 48-49 ล้านบาท และมีกําไรสุทธิ
ประมาณ 5 ล้านบาท การเติบโตระดับหลายสิบเท่านี้เกิดขึ้นสวนกระแสสภาวะเศรษฐกิจ และชี้ให้เห็นถึงความสําเร็จของกล
ยุทธ์การตลาดและคุณภาพผลิตภัณฑ์ของ Nose Tea ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีมาก

ปี 2567 : ยังคงเป็นปีแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดดต่อเนื่อง

โดย รายได้รวมทั้งปี 2567 พุ่งขึ้นเป็นประมาณ 297-298 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 512% จากปีก่อนหน้า และบริษัทมีกําไรสุทธิโดยประมาณ 30 ล้านบาท ในปีนี้

การที่ยอดขายเติบโตขึ้นหลายเท่าตัวในปี 2567 ส่วนหนึ่งมาจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นและการออกเมนูใหม่ๆ ดึงดูดลูกค้า รวมถึงการร่วมมือ(Collaboration) กับแบรนด์อื่น ๆ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ เช่น การออกเมนูเครื่องดื่มร่วมกับ C.P.S.Coffee เป็นต้น จากยอดขายระดับเกือบ 300 ล้านบาทในปี 2567 ทําให้ Nose Tea ก้าวขึ้นเป็นธุรกิจเครื่องดื่มรายได้ระดับ “ร้อยล้าน” ได้ภายในเวลาเพียงประมาณ 2-3 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้ง แนวโน้มผลประกอบการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า Nose Tea ใช้ประโยชน์จากเงินทุนภายในและกระแสเงินสดจากการขายในการขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินทุนภายนอกจํานวนมาก การเติบโตของรายได้เกิดจากความสําเร็จด้านการตลาด (โดยเฉพาะบน TikTok ที่ช่วยจุดกระแสความนิยมของแบรนด์) และการบริหารจัดการต้นทุนที่ทําให้ธุรกิจเริ่มมีกําไรตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นมา กล่าวได้ว่าการเติบโตของ Nose Tea มาจาก “การลงทุนจากลูกค้า” ในรูปแบบของยอดขายที่เพิ่มขึ้น นํามาซึ่งกําไรที่นํากลับไปขยายสาขาและพัฒนาธุรกิจต่อเนื่องมากกว่าจะมาจากการระดมทุนจากนักลงทุนภายนอก

สรุป

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน Nose Tea เติบโตจากธุรกิจเล็กๆ ไปสู่ธุรกิจระดับร้อยล้านบาทด้วยเงินทุนของผู้ก่อตั้งและกําไรสะสมของกิจการเอง เป็นหลัก ยังไม่มีการดึงนักลงทุนภายนอกเข้ามาในโครงสร้างทุนของบริษัทอย่างเป็นทางการ แต่อาศัยกลยุทธ์การตลาดและการบริหารคุณภาพที่แข็งแกร่งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตแบบก้าวกระโดด บริษัทมีเป้าหมายที่จะต่อยอดความสําเร็จนี้ด้วยการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ภายในปี 2570 เพื่อระดมทุนขนาดใหญ่สําหรับการขยายธุรกิจในวงกว้างขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการเติบโตในอนาคตจะมาจากทั้งการลงทุนภายในและเงินทุนใหม่จากผู้ถือหุ้นสาธารณะหลังการ IPO อีกด้วย

บทความโดย : ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ (CFE)
สนใจปรึกษาธุรกิจ In-House Training ติดต่อสอบถาม : 099-615-2647
Line : @coachandconsulting
Facebook : https://www.facebook.com/BICTRAININGCENTER
Share on:
แนวโน้ม ผลประกอบการ ร้านอาหาร Stand Alone
สภาวะธุรกิจอาหารประเภท Street Food

Search

Latest Post

Thumb
การวิเค
29/10/2025
Thumb
โชห่วย
21/10/2025
Thumb
สภาวะธุ
08/10/2025

Categories

  • Advisor (1)
  • Business (14)
  • Business Insights (11)
  • Restaurant (4)
  • Retail (9)
  • Training (1)
BIC DARK

สร้างมาตรฐานในการพัฒนาธุรกิจ และสร้างรูปแบบการ แข่งขันทางธุรกิจที่ได้เปรียบ ยกระดับความสามารถทาง การแข่งขันให้ธุรกิจในสถานการณ์ธุรกิจจริง

  • บริษัท บิสิเนส โค้ช แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด
    872/10 หมู่บ้านเดอะริชเอกชัย ถนนเอกชัย
    แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150
  • 099-615-2647 / 02-450-1335
  • contact@coachandconsulting.com

About Us

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • หลักสูตรพัฒนาธุรกิจ
  • In-house Training
  • บทความและข่าวสาร

Our Courses

  • Advanced Franchise Program (AFP)
  • Franchise Business Develope (FBD)
  • Professional Business Design (PBD)
  • Growth Strategies Program
  • Retail Management Program
  • Restaurant Management Program

Contacts

Enter your email address to register to our newsletter subscription

Icon-facebook Icon-instagram
Copyright © 2025 Business Intelligence Center. All Rights Reserved
BIC DARKBIC
Sign inSign up

Sign in

Don’t have an account? Sign up
Lost your password?

Sign up

Already have an account? Sign in